วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
ทองหยิบ
ทองหยิบ (โปรตุเกส: trouxos das caldas; ตรูซูช ดาช กัลดัช หรือ broinhas; โบรอียาส) เป็นขนมโปรตุเกสที่เผยแพร่ในประเทศไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยาโดยท้าวทองกีบม้า จนเป็นที่แพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน ทำจากไข่แดงตีจนฟู ก่อนนำไปหยอดลงในน้ำเชื่อมเดือดเพื่อทำให้สุก เมื่อสุกแล้วจึงนำมาจับจีบ ใส่ถ้วยตะไล
ปัจจุบัน มักถูกนำมาเป็นของหวานในงานมงคลต่างๆ เช่น งานมงคลสมรส งานขึ้นบ้านใหม่ ฯลฯ
แกงเผ็ด
ผัดขี้เมา
ผัดขี้เมา เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย และ ลาว โดยอาหารชนิดนี้เกิดขึ้นจากการผสมผสานอาหารแบบไทยเข้ากับอาหารของชาวจีนที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในประเทศไทยและลาว (หรือ ชาวไทยเชื้อสายจีน) คำว่า ขี้เมา สันนิษฐานว่า เกิดจากผู้ที่ชอบดื่มสุรามักจะหากับแกล้มจากของเหลือที่มีในตู้เย็น พบผักอะไรก็เติมลงไปได้ ไม่ใคร่จะมีสูตรแน่นอนตายตัว แต่ทำออกมาแล้วอร่อย จึงเป็นที่นิยมต่อ ๆ กันมา
ผัดขี้เมาเป็นผัดก๋วยเตี๋ยวกับซอสถั่วเหลือง น้ำปลา กระเทียม เนื้อชนิดต่าง ๆ และในบางครั้งอาจจะใส่เต้าหู้ นอกจากนี้ยังใส่พริก ถั่ว และใบกะเพราหรือใบโหระพา ผัดขี้เมาได้มีวิวัฒนาการเปลี่ยนนำมาทำกับวัตถุดิบชนิดใหม่ ๆ ในบางครั้งผู้ปรุงอาจจะใช้สัตว์ทะเลและพริกไทยอ่อน นอกจากนี้ ยังมีการผัดขี้เมาโดยไม่ใส่เส้น และการผัดโดยใส่เส้นสปาเกตตี ซึ่งเป็นเส้นแบบอิตาลี ผัดขี้เมาจึงเป็นอาหารเผ็ดต่างจากเมื่อครั้งชาวจีนเพิ่งเข้ามาพำนักในประเทศไทยและลาว
แกงเหลือง
แกงเหลือง เป็นอาหารชนิดหนึ่งในภาคใต้ของประเทศไทย ในท้องถิ่นเรียกว่า แกงส้ม ซึ่งมีความแตกต่างจากแกงส้มของไทย ทั้งในด้านรสชาติ เครื่องปรุง วิธีการปรุง กลิ่น และสีสันของน้ำแกงที่ปรุงเสร็จแล้ว
ส่วนวัตถุดิบที่นิยมนำมาทำเป็นแกงเหลืองนั้นคล้ายกับแกงส้มของไทย เช่น ปลา กุ้ง หรือ หมูสามชั้น และใช้ผักต่างๆ เพื่อเพิ่มปริมาณและรสชาติ หรือบางครั้งใช้หน่อไม้ดอง
พระรามลงสรง
พระรามลงสรง อาหารไทยโบราณชนิดหนึ่ง ปัจจุบันเป็นอาหารที่หารับประทานได้ยาก
พระรามลงทรง ดัดแปลงมาจากอาหารแต้จิ๋วที่ชื่อ "ซาแต้ปึ้ง" เชื่อว่าเข้ามาในประเทศไทยในช่วงอาณาจักรธนบุรี (พ.ศ. 2310-2325)
พระรามลงสรงเป็นอาหารจานเดียว ประกอบไปด้วยข้าวสวยหุง โปะหน้าด้วยผักบุ้งลวกสุกและเนื้อหมูหั่นชิ้น จากนั้นราดด้วยน้ำจิ้มสะเต๊ะเข้มข้นที่ทำมาจากถั่วลิสงป่น และราดน้ำพริกเผาลงไป และบีบน้ำมะนาวลงไปเป็นขั้นตอนสุดท้าย
โดยผักที่ใช้นั้นอาจใช้ผักบุ้งหรือผักคะน้าก็ได้ เนื้อหมูก็สามารถเปลี่ยนเป็นเนื้อปลา เช่น ปลากะพง หรือเนื้อกุ้งแทนได้ รวมถึงใช้เส้นหมี่แทนข้าวสวยได้
เหตุที่ได้ชื่อว่า "พระรามลงสรง" นั้น เพราะสีเขียวของผักบุ้งเหมือนสีผิวของพระรามในวรรณคดีไทย และการที่นำผักบุ้งลงไปลวกในน้ำเดือด เหมือนกับการที่พระรามลงสรงน้ำ
กล้ยวตาก
กล้วย เป็นพรรณไม้ล้มลุกในสกุล Musa มีหลายชนิดในสกุล บางชนิดก็ออกหน่อแต่ว่าบางชนิดก็ไม่ออกหน่อ ใบแบนยาวใหญ่ ก้านใบตอนล่างเป็นกาบยาวหุ้มห่อซ้อนกันเป็นลำต้น ออกดอกที่ปลายลำต้นเป็น ปลี และมักยาวเป็นงวง มีลูกเป็นหวี ๆ รวมเรียกว่า เครือ พืชบางชนิดมีลำต้นคล้ายปาล์ม ออกใบเรียงกันเป็นแถวทำนองพัดคลี่ คล้ายใบกล้วย เช่น กล้วยพัด (Ravenala madagascariensis) ทว่าความจริงแล้วเป็นพืชในสกุลอื่น ที่มิใช่ทั้งปาล์มและกล้วย
ขนมกล้วย
ขนมกล้วย ทำจากกล้วย แป้งข้าวเจ้า กะทิ หรือมะพร้าวขูด และส่วนผสมอื่น ๆ แล้วนำส่วนผสมใส่ในถ้วยตะไลเล็ก ๆ หรือห่อด้วยใบตอง จากนั้น นำไปนึ่งก่อนโรยหน้าด้วยมะพร้าวขูด ขนมกล้วยมีรสหอมหวานของกล้วยที่กำลังสุกงอมผสมกับความความหวานมันของกะทิ
ขนมตาล
ขนมตาล เป็นขนมไทยดั้งเดิม เนื้อขนมมีลักษณะเป็นแป้งสีเหลืองเข้ม นุ่ม ฟู มีกลิ่นตาลหอมหวาน ขนมตาลทำจากเนื้อตาลจากผลตาลที่สุกงอม แป้งข้าวเจ้า กะทิ และน้ำตาล ผสมกันตามกรรมวิธี ใส่กระทงใบตอง โรยมะพร้าวขูด และนำไปนึ่งจนสุก เนื้อลูกตาลยีที่เป็นส่วนผสมในการทำขนมตาล ได้จากการนำผลตาลที่สุกจนเหลืองดำ เนื้อข้างในมีสีเหลือง มีกลิ่นแรง ซึ่งส่วนมากจะหล่นจากต้นเอง มาปอกเปลือกออก นำมายีกับน้ำสะอาดให้หมดสีเหลือง นำน้ำที่ยีแล้วใส่ถุงผ้า ผูกไว้ให้น้ำตกเหลือแต่เนื้อลูกตาล
ขนมอาละหว่า
ขนมอาละหว่าเป็นชื่อขนมพื้นเมืองไทยใหญ่ชนิดหนึ่งที่ทำมาจากแป้งข้าวเจ้าผสมกะทิและน้ำตาลอ้อย ถือเป็นขนมพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อของจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ขนมอาเก๊าะ
ขนมอาเก๊าะเป็นขนมของชาวไทยมุสลิมในภาคใต้ที่ปรุงจากแป้ง ไข่เป็ด น้ำตาลและกะทิ เนื้อขนมคล้ายขนมหม้อแกง สังขยา รูปร่างคล้ายขนมไข่ เพราะหยอดแป้งลงในพิมพ์ขนมเหมือนกัน แต่พิมพ์ของขนมอาเก๊าะใหญ่กว่า ทำให้สุกด้วยการผิงไฟบนล่าง นิยิมรับประทานในเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นช่วงถือศีลอดของชาวมุสลิม
ข้าวโป่ง
ข้าวโป่ง เป็นขนมพื้นบ้านภาคอีสาน นิยมในฤดูหนาวหลังจากเกี่ยวข้าวแล้ว การทำเริ่มจากนำข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วไปตำด้วยครกมอง เมื่อละเอียดแล้วจะเอาใบตดหมูตดหมาหรือย่านพาโหมขยี้กับน้ำแล้วสลัดใส่ครก เพื่อให้ข้าวเหนียวจับตัวกันดี นำน้ำอ้อยโขลกแล้วตำผสมลงในครกจนเหนียวได้ที่ นำน้ำมันหมูทามือแล้วปั้นข้าวเหนียวเป็นก้อนผสมกับไข่แดง กดก้อนข้าวเหนียวที่ปั้นให้เป็นแผ่นบางๆ แล้ววางบนใบตองที่ทาน้ำมันหมูแล้ว ตากแดดให้แห้ง เมื่อจะรับประทานจึงเอามาปิ้งให้สุก
สาคู
สาคู เป็นชื่ออาหารว่างชนิดหนึ่ง ทำด้วยสาคูเม็ดเล็กนวดน้ำร้อนให้ดิบ ๆ สุก ๆ ปั้นเป็นก้อน มีเนื้อหมูเป็นต้นสับผัดกับเครื่องปรุงทำเป็นไส้แล้วนึ่ง
ขนมปลากริมไข่เต่า
ขนมปลากริมไข่เต่า เป็นขนมไทยชนิดหนึ่งซึ่งนำขนมปลากริม และขนมไข่เต่ามารับประทานด้วยกัน ให้รสหวานจากขนมปลากริม และรสเค็มจากขนมไข่เต่าผสมรวมกัน
ขนมฟักเขียวกวน
ขนมฟักเขียวกวนเป็นขนมพื้นบ้านของจังหวัดนครสวรรค์ นิยมใช้ในงานทำบุญเพราะเชื่อว่าฟักเป็นพืชที่ให้ความเย็น ลักษณะของขนมตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม ขนาดพอคำ มีความเหนียว รสชาติหวานมัน โรยถั่วลิสงคั่วหั่นฝอย การทำขนมชนิดนี้ เริ่มจากนำฟักเขียวแก่มาขูดเอาแต่เนื้อแล้วบีบน้ำออก ใส่เนื้อฟักลงในกระทะทอง กวนกับกะทิ น้ำตาลปี๊บ และแป้งข้าวเจ้า จนกว่าขนมจะล่อน ไม่ติดกระทะ แล้วเทใส่ถาด โดรยด้วยถั่ว ขนมที่คล้ายกันนี้มีทำที่จังหวัดจันทบุรีด้วยแต่เรียกขนมฟัก
มะม่วงกวน
มะม่วงกวน ถือเป็นขนมทานเล่นชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นแผ่นบางๆ ค่อนข้างใส สีออกเหลืองหรือน้ำตาลอมเหลือง มีความเหนียวพอสมควร ทำเป็นรูปวงกลม ดอกไม้ หรือ ม้วนเป็นเกลียว เป็นต้น การทำมะม่วงกวนถือเป็นหนึ่งในวิธีการถนอมอาหารที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ หลักการถนอนอาหารโดยการกวนนั้นมีหลักดังนี้คือ นำเอาผลไม้ที่ สุกแล้วมาเคี่ยวผสมรวมกับน้ำตาล โดยอาศัยความร้อนเป็นหลัก ซึ่งในการทำมะม่วงกวนนั้น ถือเป็นการกวนแบบแห้งที่ต้องใช้น้ำตาลในอัตราส่วนมากๆนั่นเอง รสชาดของมะม่วงกวนโดยส่วนใหญ่มักมีรสหวาน หวานอมเปรี้ยว หรือเปรี้ยวจัด โดยเคล็ดลับในการทำมะม่วงกวนให้น่ารับประทาน คือการเลือกสรรมะม่วงที่ไม่สุกจนเกินไป และแนะนำให้ใช้มะม่วงแก้วซึ่งเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในท้องตลาด หรือสามารถนำเอามะม่วงหลายๆชนิดมาผสมรวมกันก็ได้ ในความเป็นจริง วิธีการทำมะม่วงกวนนั้นถือว่าไม่มีหลักเกณฑ์หรืออัตราส่วนของส่วนผสมต่างๆที่แน่นอนตายตัว ขึ้นอยู่กับการประยุกต์ ดัดแปลงของแต่ละคน เพื่อให้ได้มะม่วงกวนในรสชาดตามที่ต้องการ
ขนมอาลัว
ขนมอาลัว เป็นขนมหวานที่ทำจากแป้ง ผิวด้านนอกจะเป็นน้ำตาลแข็ง ด้านในเป็นแป้งหนืด มักทำเป็นอันเล็กๆ มีหลายสี มีกลิ่นหอมหวาน ชื่ออาลัวมีความหมายว่าเสน่ห์ดึงดูดใจ อาลัวมีต้นกำเนิดมาจากประเทศโปรตุเกส ถูกนำเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยครั้งแรกโดยคุณท้าวทองกีบม้า หรือ เลดี้ฮอร์ เดอควีมาร์ ภริยาเจ้าพระยาวิชเยนทร์ซึ่งเป็นชาวโปรตุเกสที่เข้ามารับราชการในราชสำนักในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ขนมอาลัวยังแบ่งได้เป็นสองชนิด คือ อาลัวชาววัง และ อาลัวจิ๋ว อาลัวชาววังมีขนาดใหญ่กว่า และมีส่วนผสมของกะทิมากกว่าอาลัวจิ๋ว
ขนมกง
ขนมกง หรือ ขนมไข่ปลา คือขนมหวานพื้นเมืองชนิดหนึ่งของทางภาคใต้ ของประเทศไทย ที่ทำมาจากแป้งข้าวเหนียว โดยถือเป็นหนึ่งในขนมทั้งห้าชนิดที่มีความสำคัญในการประกอบพิธีกรรมในประเพณีสารทเดือนสิบมุ่งหมายให้เป็นเครื่องประดับของบรรพบุรุษ
ขนมเทียน
ขนมเทียน หรือ ขนมนมสาว ทางภาคเหนือเรียกว่า ขนมจ็อก ซึ่งเป็นขนมที่นิยมใช้ในงานบุญ โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ แต่เดิมมีไส้มะพร้าวและไส้ถั่วเขียว แต่ในปัจจุบันมีการดัดแปลงไส้ขนมจ็อกออกไปหลากหลายมาก ชาวจีนใช้ขนมเทียนในการไหว้บรรพบุรุษช่วงวันตรุษและวันสารท ไส้เป็นถั่วเขียวกวนบด ถ้าแบบเค็มจะใส่พริกไทยและเกลือ แบบหวานใส่มะพร้าวและน้ำตาลลงไปเพิ่ม ถ้าตัวแป้งทำด้วยแป้งถั่วเรียกขนมเทียนแก้ว
ในพิธีกรรมของชาวชอง จะใช้ขนมเทียนในพิธีไหว้ผีหิ้งด้วย
ขนมจาก
ขนมจาก เป็นขนมพื้นบ้านในย่านจังหวัดสมุทรปราการและบริเวณที่ติดชายฝั่งทะเลอื่นๆ ทำด้วยแป้งข้าวเหนียว ส่วนมากนิยมใช้ข้าวเหนียวดำ มะพร้าวทึนทึกขูดหยาบๆ น้ำตาลมะพร้าว และเกลือเล็กน้อย ที่เรียกว่าขนมจาก เพราะเป็นขนมที่ห่อด้วยใบจากสด ที่ได้จากต้นจากซึ่งเป็นพืชในวงศ์ปาล์มชนิด ขึ้นเป็นกออยู่ตามป่าชายเลนและบริเวณริมน้ำเค็ม ขนมนี้ทำให้สุกด้วยการย่างไฟคล้ายการเผาข้าวหลามแต่ใช้ความร้อนน้อยกว่า
ข้าวเม่า
ข้าวเม่า ได้มาจากรวงข้าวสีเขียวไล่มาจนถึงสีเขียวตกน้ำตาล การบริโภคข้าวเม่าพบในทุกประเทศที่ปลูกข้าว ตั้งแต่ไทยลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า ภูฏาน อินเดีย ทิเบต ในภูฏานใช้เป็นอาหารว่างกินกับน้ำชา ในไทยเป็นขนมที่นิยมกินมาตั้งแต่สมัยโบราณ ในอดีตตอนหน้าน้ำจะมีแม่ค้านำขนมใส่เรือมาขาย และขนมกลุ่มนั้นมีข้าวเม่าทอดอยู่ด้วย
โจ๊ก
โจ๊ก เป็นข้าวต้มชนิดหนึ่งที่ใช้ปลายข้าวต้มจนเละ นิยมรับประทานกันในหลายประเทศในเอเชีย ในบางวัฒนธรรมจะรับประทานโจ๊กเป็นอาหารเช้าหรืออาหารมื้อค่ำแทนอาหารหลักในบางมื้อ ส่วนเทศกาลวันตรุษจีนจะมีข้อห้ามกินโจ๊กเพราะการกินโจ๊กวันตรุษจีนเหมือนกับการขัดขวางไม่ให้ตัวเองร่ำรวยเนื่องจากคนจนจะนิยมกินโจ๊ก โจ๊กยังสามารถทำได้ในหม้อธรรมดาหรือหม้อหุงข้าว
ไข่ยัดไส้
ไข่ยัดไส้ เป็นอาหารคาวประเภทหนึ่งซึ่งใช้ ไข่ เป็นส่วนประกอบหลัก ทั้งนี้จะใช้ไข่ไก่ หรือไข่เป็ดก็ได้ ลักษณะของไข่ยัดไส้ ประกอบด้วยส่วนหลักสองส่วนคือ ส่วนห่อหุ้มด้านนอกที่ทำจากไข่ และไส้ใน มีรสชาติ หวาน เปรี้ยว เป็นหลักและมีรสเค็มเล็กน้อย มีสัมผัสการทานที่กรุบกรอบจากใส้ใน และนุ่มนวลจากไข่ที่หุ้มอยู่ภายนอก
ราดหน้า
ราดหน้า เป็นก๋วยเตี๋ยวชนิดหนึ่ง ที่ทำโดยการใช้เส้นลงไปผัดกับน้ำมันอ่อน ๆ ก่อน แล้วพักไว้ น้ำที่ใช้ราด เป็นน้ำต้มกระดูกผสมกับแป้งมันมีความข้นเหนียว เนื้อสัตว์นิยมใช้ เนื้อหมู และ กุ้ง หรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ ซึ่งถ้าเป็นเนื้อหมูจะนิยมหมักกับกระเทียมก่อน เพื่อให้เหนียวนุ่ม ผักนิยมใช้ ผักคะน้า หรือจะใช้ผักอย่างอื่น เช่น ผักกวางตุ้ง หรือ ผักกาดขาว ก็ได้
เส้นที่ใช้ทำราดหน้า มีหลายเส้น โดยมาก หากเป็นเส้นใหญ่ จะผัดกับน้ำมันและซีอิ๊วดำก่อน นอกจากนี้ยังมีหมี่ขาว หมี่เหลือง ซึ่งโดยมากจะเป็นเส้นทอดกรอบ นอกจากนี้แล้ว ราดหน้าบางครั้งยังสามารถใส่ไข่ลงไปได้ด้วย อาจจะผสมลงไปในน้ำราดหน้า หรือทอดแยกออกมาโปะหน้าต่างหากแบบไข่เจียวหรือไข่ดาว ก็ได้
ขนมลา
ขนมลา เป็นขนมหวานพื้นบ้านของทางภาคใต้ ของประเทศไทย ซึ่งทำมาจากแป้งข้าวเจ้า เป็นขนมสำคัญหนึ่งในห้าชนิดที่ใช้สำหรับจัดเพื่อนำไป ถวายพระสงฆ์ในงานประเพณีบุญสารทเดือนสิบ ซึ่งเป็นงานบุญประเพณีที่สำคัญของจังหวัดในภาคใต้ เช่น จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลาโดยอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับ ขนมลาปรุงขึ้นเพื่อเป็นเสมือนแพรพรรณเสื้อผ้า
ปัจจุบันขนมลามีจำหน่ายตลอด ทั้งปี ไม่ปรุงเฉพาะในเทศกาลอย่างที่เคยปฏิบัติมา ขนมลามี 2 ชนิดคือลาเช็ดและลากรอบ ขนมลาเช็ดจะใช้น้ำมันน้อย โรยแป้งให้หนา เมื่อสุกพับเป็นครึ่งวงกลม รูปร่างเหมือนแห ลากรอบ นำลาเช็ดมาโรยน้ำตาลแล้วนำไปตากแดด ในปัจจุบันมีการทำลากรอบแบบใหม่ โดยเพิ่มแป้งข้าวเจ้าให้มากขึ้น ใช้น้ำมันมากขึ้น เมื่อแป้งสุกแล้วม้วนเป็นแท่งกลม พักไว้จนเย็นจึงดึงไม้ออก
ขนมผิง
ขนมผิง เป็นขนมที่ทำมาจากแป้งผสมกับน้ำตาล แล้วนำไปอบจนกรอบ มีสีเหลืองนวล
ขนมผิงมีต้นกำเนิดมาจากประเทศโปรตุเกส โดยหญิงสาวที่มีชื่อว่า มารี กีมาร์ หรือท้าวทองกีบม้า ลูกครึ่ง โปรตุเกส-ญี่ปุ่น และเบงกอลที่เกิดในอาณาจักรอยุธยา หลังจากที่ทหารญี่ปุ่นชุดแรกได้เข้ามาเป็นทหารอาสาในแผ่นดินของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ไม่นานนักนางมารี กีมาร์ ก็ได้เข้ารับราชการในตำแหน่งหัวหน้าห้องเครื่องต้น และได้สอนการทำขนมหวาน อาทิ ทองหยอด ฝอยทอง และขนมผิง ให้กับผู้ที่ทำงานอยู่ใกล้ชิดกับเธอและสาวๆเหล่านั้นก็ได้นำสูตรขนมออกมาถ่ายทอดต่อไป
ฝอยทอง
ฝอยทอง เป็นขนมโปรตุเกส ลักษณะเป็นเส้นฝอยสีทอง ทำจากไข่แดงของไข่เป็ด เคี่ยวในน้ำเดือดและน้ำตาลทราย ชาวโปรตุเกสใช้รับประทานกับขนมปัง กับอาหารมื้อหลักจำพวกเนื้อสัตว์ และใช้รับประทานกับขนมเค้ก โดยมีกำเนิดจากเมืองอาไวรู เมืองชายฝั่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศโปรตุเกส
ฝอยทองเป็นที่รู้จักในประเทศสเปนว่า อูเอโบอิลาโด , ญี่ปุ่นว่า เครังโซเม็ง กัมพูชาว่า วาวี และมาเลเซียว่า จาลามัซ
ฝอยทองแพร่เข้ามาในประเทศไทย พร้อมกับทองหยิบและทองหยอด ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยมารีอา กูโยมาร์ เด ปิญญา (ท้าวทองกีบม้า, พ.ศ. 2202-2265) ลูกครึ่งโปรตุเกส-ญี่ปุ่น ภริยาของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) ท้าวทองกีบม้ามีหน้าที่เป็นหัวหน้าห้องเครื่องต้น เป็นผู้ทำอาหารเลี้ยงต้อนรับคณะราชทูตจากฝรั่งเศสที่มาเยือนกรุงศรีอยุธยาในสมัยนั้น
ซุปหน่อไม้
หน่อไม้ (อังกฤษ: Bamboo shoot, Bamboo sprout) เป็นคำที่ใช้เรียกหน่ออ่อนของไผ่ที่รับประทานได้ที่แตกจากเหง้าใต้ดิน โดยมาจากสปีชีส์ Bambusa vulgaris และ Phyllostachys edulis นิยมรับประทานในทวีปเอเชียหลายประเทศ และมีวิธีการปรุงที่หลากหลาย
ลาบ
ลาบ เป็นอาหารท้องถิ่นทางภาคอีสานและภาคเหนือ(รวมถึงประเทศลาวและสิบสองปันนา) โดยนำเนื้อมาสับให้ละเอียดแล้วคลุกกับเครื่องปรุง ซึ่งเนื้อที่มาทำลาบเป็นเนื้อหลายชนิด เช่น เนื้อไก่ เนื้อเป็ด เนื้อวัว เนื้อควาย เนื้อปลา เนื้อหมู และเนื้อนก นอกจากนี้ยังสามารถลาบสัตว์จำพวก กวาง เช่น ละมั่ง กระจง เก้ง หรือแม้แต่บึ้ง [1]ก็นำมาลาบได้เช่นกัน ลาบนิยมกินคู่กับข้าวเหนียว
วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
น้ำเต้าหู้
กระเจี๊ยบแดง
กระเจี๊ยบแดง ภาคเหนือ เรียก ผักเก็งเค็ง ส้มเก็งเค็ง เงี้ยว แม่ฮ่องสอนเรียก ส้มปู จังหวัดตาก เรียก ส้มตะแลงเครง ภาคกลาง เรียก กระเจี๊ยบ กระเจี๊ยบเปรี้ยวเป็นพืชสมุนไพรที่เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 3–6 ศอก ลำต้นและกิ่งก้านมีสีม่วงแดง ใบมีหลายแบบด้วยกัน ขอบใบเรียบ บางทีก็มีรอยหยักเว้า 3 หยัก สีของดอกเป็นสีชมพู ตรงกลางดอกมีสีเข้มมากกว่าขอบนอกของกลีบ กลีบดอกร่วงโรยไป กลีบรองดอกและกลีบเลี้ยงก็จะเจริญเติบโตขึ้นอีกเกิดเป็นสีม่วงแดงเข้มหุ้มเมล็ดเอาไว้ภายใน
การขยายพันธุ์โดยการใช้เมล็ดปลูก ควรปลูกในหน้าฝน พรวนดินก่อนปลูก ขุดหลุมปลูกหลุมละ 2-3 เมล็ด ระยะห่างของหลุมประมาณ ½-1 เมตร พอต้นอ่อนงอกออกมาแล้ว ให้ถอนต้นที่อ่อนแอกว่าออกไปเอาต้นที่แข็งแรงไว้ รดน้ำ ใส่ปุ๋ย พรวนดิน กำจัดวัชพืชออกให้หมด
วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
กะละแม
กะละแม เป็นขนมไทยลักษณะเป็นแป้งเหนียวสีดำ เป็นขนมหนึ่งในสามชนิดที่นิยมทำขึ้นในวันปีใหม่ของคนไทยในสมัยก่อน ซึ่งจะต้องทำให้เสร็จก่อนวันสงกรานต์ คือ ข้าวเหนียวแก้ว ข้าวเหนียวแดง และกะละแม [1] ยังไม่ทราบว่ากะละแมมีที่มาจากขนมหวานของชาติใด บางท่านกล่าวว่ามาจากขนมกาลาเม็กของฝรั่งเศส หรือคาราเมลของอังกฤษ หรือเกละไมของชาวมลายู พุทธทาสภิกขุตั้งข้อเสนอว่าน่าจะมาจากขนมฮูละวะของอินเดียที่มีส่วนผสมเป็นนม แป้ง และน้ำตาล[2]
กะละแมมี 2 ชนิด แบ่งตามวิธีการกวนคือ [2]
- กะละแมเม็ด (ดั้งเดิม) กะละแมแบบนี้สีเข้ม ขนมอาจจะมีลักษณะเป็นจุดๆแทรกอยู่
- กะละแมแป้ง แต่ใส่แป้งข้าวเหนียวแทนเม็ดข้าวเหนียว กะละแมที่กวนขายในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นกะละแมแป้งเพราะทำง่ายกว่า
เมี่ยงมะม่วง
เมี่ยงมะม่วงผมเคยกินเมี่ยงมาหลายประเภท ส่วนใหญ่ก็เป็นเมี่ยงที่อร่อยและผมชอบมาก เช่นเมี่ยงคำ เมี่ยงหอยแครง นอกจากจะอร่อยแล้วยังอุดมไปด้วยสมุนไพรหลายชนิดที่ดีต่อสุขภาพด้วย วันนี้นั่งดูอาหารแปลกๆ ในอินเตอร์เน็ต เห็นเมนูเมี่ยงมะม่วง ดูแล้วน่ารับประทานมาก ปกติมะม่วงเปรี้ยวเป็นของโปรดผมอยู่แล้ว ช่วงนี้มะม่วงใกล้ๆ บ้าน ก็เริ่มออกดอกติดลูกอ่อนเต็มต้นเลย อีกไม่กี่วันก็สามารถเก็บกินได้แล้ว มะม่วงเปรี้ยวเป็นผลไม้ที่เมื่อก่อนแทบไม่มีราคาแต่วันนี้บอกได้เลยว่าโคตรแพง ปีที่แล้วจำได้ว่ามะม่วงเปรี้ยว (ที่บ้านผมเรียกมะม่วงเบา)กิโลกรัมละเฉียดร้อยบาท ผมเองก็เพาะเม็ดมะม่วงไว้ ได้ต้นอ่อนหลายต้น ปีนี้กะว่าพอฝนเริ่มตกซักหน่อยจะเอาไปปลูกรอบๆ บ้านเพิ่มอีก มะม่วงเปรี้ยวเอามาทานคู่กับน้ำปลาหวานก็อร่อย ใส่ยำก็เยี่ยม วันนี้ได้สูตรเอามาทำเมี่ยงมะม่วง ซึ่งเหมาะที่จะเอามาทานเล่นเป็นของว่างอย่างยิ่ง ไว้ค่อยลองทำดู เมื่อมะม่วงข้างบ้านได้ขนาดแล้ว ค่อยมาดูกันว่าจะออกมาอย่างไรบ้าง เมี่ยงมะม่วง มีวิธีทำดังนี้
ส่วนประกอบและวิธีการทำ เมี่ยงมะม่วง
1 มะม่วงเปรี้ยวฝานเป็นแผ่นบางๆ 3 ลูก เอาไว้ห่อเครื่องเคียง (เหมือนใช้ใบชะพลูห่อเมี่ยงคำ)
2 เตรียม มะพร้าวขูด(เอาแต่หน้ามะพร้าวสีขาว) 1.5 ถ้วยตวง , ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ 1/2 ถ้วยตวง , ขิงแก่ซอยละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ , หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ , พริกขี้หนูซอย 10เม็ด , ใบมะกรูดซอยละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ , น้ำตาลปี๊บ 2.5 ช้อนโต๊ะ , เกลือป่น ปลายช้อนชา
3 นำมะพร้าวขูดคั่วในกระทะใช้ไฟให้อ่อนที่สุด คั่วจนมะพร้าวสุกกลายเป็นสีเหลืองทอง แล้วค่อยใส่เกลือและน้ำตาลปี๊บลงไป ผัดให้เข้ากันจนน้ำตาลปี๊บละลายเคลือบมะพร้าวจนแห้งดีแล้ว ก็ใส่กุ้งแห้งและถั่วลิสงลงไป ผัดเบาๆ พอเข้ากัน ก็ยกขึ้นจากเตา พักไว้ให้เย็นก่อน
4 เมื่อส่วนผสมของมะพร้าวคั่วเย็นดีแล้ว ก็ใส่ใบมะกรูด หอมแดง พริกขี้หนูลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกที เวลารับประทานก็ให้ม้วนแผ่นมะม่วงเปรี้ยวแล้วตักส่วนผสมใส่ลงไป รับประทานได้ทันที
เทคนิคการทำ เมี่ยงมะม่วง
1 ที่ต้องรอให้ส่วนผสมเย็นตัวก่อนแล้วค่อยใส่ ใบมะกรูด หอมแดง และพริกขี้หนู ก็คงเพราะไม่ต้องการให้ความร้อนที่สะสมอยู่ทำให้ใบมะกรูด หอมแดงและพริกขี้หนูมีสีตายนึ่ง(คล้ำซีด)
2 เมนูนี้สามารถทำเป็นของหวางสุดหรูหราได้ โดยการวางแผ่นมะม่วงในถ้วยแก้วใบเล็กๆ แล้ววางส่วนผสมของเมี่ยงลงไปบนแผ่นมะม่วง จะใช้ช้อนส้อมเล็กๆหรือไม้จิ้มฟันก็ได้เสียบไว้ให้หยิบกินได้สะดวก สามารถเอาขึ้นเป็นเมนูรับแขกงานจัดเลี้ยงหรูหราได้เลย
ส่วนประกอบและวิธีการทำ เมี่ยงมะม่วง
1 มะม่วงเปรี้ยวฝานเป็นแผ่นบางๆ 3 ลูก เอาไว้ห่อเครื่องเคียง (เหมือนใช้ใบชะพลูห่อเมี่ยงคำ)
2 เตรียม มะพร้าวขูด(เอาแต่หน้ามะพร้าวสีขาว) 1.5 ถ้วยตวง , ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ 1/2 ถ้วยตวง , ขิงแก่ซอยละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ , หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ , พริกขี้หนูซอย 10เม็ด , ใบมะกรูดซอยละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ , น้ำตาลปี๊บ 2.5 ช้อนโต๊ะ , เกลือป่น ปลายช้อนชา
3 นำมะพร้าวขูดคั่วในกระทะใช้ไฟให้อ่อนที่สุด คั่วจนมะพร้าวสุกกลายเป็นสีเหลืองทอง แล้วค่อยใส่เกลือและน้ำตาลปี๊บลงไป ผัดให้เข้ากันจนน้ำตาลปี๊บละลายเคลือบมะพร้าวจนแห้งดีแล้ว ก็ใส่กุ้งแห้งและถั่วลิสงลงไป ผัดเบาๆ พอเข้ากัน ก็ยกขึ้นจากเตา พักไว้ให้เย็นก่อน
4 เมื่อส่วนผสมของมะพร้าวคั่วเย็นดีแล้ว ก็ใส่ใบมะกรูด หอมแดง พริกขี้หนูลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกที เวลารับประทานก็ให้ม้วนแผ่นมะม่วงเปรี้ยวแล้วตักส่วนผสมใส่ลงไป รับประทานได้ทันที
เทคนิคการทำ เมี่ยงมะม่วง
1 ที่ต้องรอให้ส่วนผสมเย็นตัวก่อนแล้วค่อยใส่ ใบมะกรูด หอมแดง และพริกขี้หนู ก็คงเพราะไม่ต้องการให้ความร้อนที่สะสมอยู่ทำให้ใบมะกรูด หอมแดงและพริกขี้หนูมีสีตายนึ่ง(คล้ำซีด)
2 เมนูนี้สามารถทำเป็นของหวางสุดหรูหราได้ โดยการวางแผ่นมะม่วงในถ้วยแก้วใบเล็กๆ แล้ววางส่วนผสมของเมี่ยงลงไปบนแผ่นมะม่วง จะใช้ช้อนส้อมเล็กๆหรือไม้จิ้มฟันก็ได้เสียบไว้ให้หยิบกินได้สะดวก สามารถเอาขึ้นเป็นเมนูรับแขกงานจัดเลี้ยงหรูหราได้เลย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)